วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คิด...........คิด
คิดมาก ก็ว่า เด๋วเครียด คิดน้อย ก็ว่า กรูโง่ คิดตื้นๆ ก็ว่า กรูไม่คิด คิดลึก ก็ว่า กรูทะลึ่ง

อกหัก พักบ้านพี่ อกไม่มี กลับบ้านไป

คำเตือน! การบริโภคกิ๋กเกินวันละ 2 คน อาจทำให้สับสนในการโกหกได้
โธ่...เซ็ง
Mail ใครกัน Run หน้าจอ ขอเป็นมิตร
เรา Click ปิด ทิ้งไป ไม่ใช่เพื่อน
แต่ไม่นาน ก็พลัน Run มาเยือน
อยากเป็นเพื่อน อยู่อย่างนั้น วันหลายครา
เริ่มรำคาญ พาลคันปาก อยากด่าใส่
Click เข้าไป ใจอิดเอียน หวังเขียนด่า
แต่พอเห็น หน้า M อย่างเต็มตา
มุมบนขวา มีรูปด้วย ว๊าว! สวยจริง
จึงลองพิมพ์ Chat ไป ใจเริ่มอ่อน
เขาก็ On In จ๊ะจ๋า ประสาหญิง
ก็เลย Out ออกไม่ได้ ใจประวิง
เราเริ่มยิง M ไปมา ภาษาใจ
เริ่มคุ้นเคย เอ่ยถาม ความลึกลึก
ความรู้สึก สองเรานั้น ตรงกันไหม
สรุปผล ออกมา น่าพอใจ
ผูกสายใย ไม่โยเย Say Good-bye
ตัดสินใจ Hello กดโทรหา
เสียงตอบมา พาให้ เราใจหาย
ใยสาวสวย เสียงใหญ่จัง ดังเสียงชาย
อุ๊ยต๊ายตาย ว๊ายเนื้อเย็น เป็น"กระเทย"

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ประวัติ....สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
               พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง พลตำรวจเอกหญิง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือพระนามที่นิยมเรียกกันว่า สมเด็จย่า (พระราชสมภพ วันอาทิตย์ ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 จังหวัดนนทบุรี - สวรรคตวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระชนมายุ 94 พรรษา กรุงเทพมหานคร) พระองค์เป็นพระราชชนนีใน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน
             
               สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระนามเดิมว่า สังวาลย์ (ไม่มีนามสกุล เนื่องจากพระราชบัญญัติขนานนามสกุลเริ่มมีในปี พ.ศ. 2456) เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ทรงเป็นบุตรคนที่ 3 ในพระชนกชูและพระชนนีคำ ทรงมีพระภคินี และพระเชษฐา 2 คนซึ่งได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่เยาว์วัย คงเหลือแต่พระอนุชาอ่อนกว่าพระองค์ 2 ปี คือ คุณถมยา
พระชนกชู มีอาชีพเป็นช่างทอง เป็นบุตรชายของคหบดี ชื่อ ชุ่ม มีเชื้อสายสืบมาจากผู้ดีเก่าแถวตึกขาว มีนิวาสสถานอยู่ใกล้ๆวัดอนงคาราม ฝั่งธนบุรี พระชนกชูได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่สมเด็จย่ามีพระชนมายุ 3 พรรษา และพระชนนีคำถึงแก่กรรมเมื่อพระองค์มีพระชนมายุ เพียง 9 พรรษา หลังจากนั้น พระองค์ทรงอยู่ในความอุปการะของป้าซ้วย พี่สาวของพระชนนีคำ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างม้วนบุหรี่ และทำขนมขาย
พระชนนีคำ มีมารดาชื่อผา และเชื่อว่ามีเชื้อสายชาวเวียงจันทน์ เนื่องจากทางครอบครัวนิยมรับประทานข้าวเหนียว[1] พระชนนีคำเป็นสตรีที่รู้หนังสือซึ่งหาได้ยากในสมัยนั้น จึงได้นำความรู้นี้มาสอนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ด้วยพระอุปนิสัยที่ชอบการเรียนรู้ และการอ่านหนังสือตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระองค์จึงทรงเป็นผู้ที่มีไหวพริบ และเฉลียวฉลาด
วันหนึ่ง ญาติของครอบครัวพระชนกชู มาแนะนำพระชนนีคำ ให้นำสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ไปฝากคุณจันทร์ แสงชูโต ซึ่งเป็นญาติและพระพี่เลี้ยงใน สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระเชษฐภคินีในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เพื่อถวายตัวเป็นข้าหลวง ในขณะนั้นทรงมีพระชนมายุเพียง 7-8 พรรษา

อย่าพูดว่ารักฉัน…

อย่าพูดว่ารักฉัน…
ถ้าเธอไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เข้าใจไหม
อย่าจับมือ  โอบกอด ปลอบโยนใจ
เพราะจะทำให้คนอ่อนไหว คิดไปไกล ว่าเธอ..รัก
- – - – - -
อย่าพูดว่าห่วงหา…
ถ้าฉันมีค่า  แค่เวลาเหงา เท่านั้น
หากใครบางคน เกิดสับสน กับความผูกพัน
แล้วถอนตัวไม่ทัน เธอจะกลายเป็นคนทำร้ายฉัน อย่าง..ไม่ตั้งใจ
- – - – - -
อย่าให้ความสับสน…
ต้องทำร้ายใครบางคนจน หวั่นไหว
ปล่อยมือฉัน ก่อนที่รักจะพันธนาการมากเกินไป
ถึงตอนนั้น  ฉันอาจจะรักใครไม่ได้..อีกเลย



ความจริง.....ของคน
คำว่า...รัก...ใครๆก็พูดเป็น
คำว่า...ชัดเจน...เชื่อได้สักแค่ไหน
คำว่า...คิดถึง...พูดแล้วได้อะไร
คำว่า...เข้าใจ...ใครๆก็พูดมา
คำว่า...เป็นห่วง...คำลวงใครก็แหล
คำว่า...อยากดูแล...พูดเหมือนแคร์หนักหนา
คำว่า...สาบาน...สันดานเหมือนสัญญา
แค่คำที่พูดมา...ไม่มีค่าเท่าการกระทำ
+...............................+